
โหราศาสตร์เป็นวิชาที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมาก เพราะมนุษย์เรามักจะมีความเชื่อจากสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติี่เชื่อว่าจะทำให้เราทราบอนาคตได้ และนอกจากนี้โหราศาสตร์ยังเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก มีมานานนับพันปีและเขียนขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 5 โดยอริสโตเติลปราชญ์ชาวกรีก โหราศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่มีมานานหลายร้อยปี ประมาณการว่ามีผู้คนกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกที่ฝึกฝนมัน แต่เมื่อโลกของเราเปลี่ยนไปรวมถึงมีวิทยาการใหม่ ๆ อย่างเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนที่ทำให้ชีวิตมนุษย์เปลี่ยนไป รวมไปถึงศาสตร์ของวิทยาศาสตร์นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาคุณมาดูว่าระหว่างวิทยาศาสตร์กับโหราศาสตร์นั้นมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร หากพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
ความเหมือนและแตกต่างของวิทยาศาสตร์และโหราศาสตร์
สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเมื่อได้ยินคำว่า “โหราศาสตร์” คือดวงชะตาส่วนตัวของพวกเขา อย่างไรก็ตาม โหราศาสตร์ยังสามารถใช้เพื่ออธิบายสาขาวิชาอื่น ๆ เช่น ฟิสิกส์ควอนตัม พันธุศาสตร์ ธรณีวิทยา และแม้แต่การแพทย์ อย่างไรก็ตาม การทำนายทางโหราศาสตร์สมัยใหม่นั้นไม่ถูกต้องเสมอไป ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลจีนประกาศว่านักวิทยาศาสตร์ชาวจีนได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการทำนายอนาคตโดยใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์มากกว่าการป้อนข้อมูลของมนุษย์ การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อคำเตือนจากคณะกรรมการการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ (CERD) ขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติของจีนเป็นการเลือกปฏิบัติสาขาวิชาโหราศาสตร์และวิทยาศาสตร์ได้รับความสนใจจากโลกรอบตัวเราเสมอมา สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในนิยายวิทยาศาสตร์และเรื่องราวแฟนตาซีทุกประเภทที่เขียนเกี่ยวกับอนาคต นักเขียนบางคนเช่น Robert Lelouch, Stephen King และ Joe R Lansdale ได้รวมเอาโหราศาสตร์เข้าไว้ในเรื่องราวของพวกเขา ไตรภาค ‘Star Wars’ เป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของแรงบันดาลใจทางโหราศาสตร์ หัวข้อของโหราศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาหลายปีแล้ว บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องและความเกี่ยวข้องในโลกปัจจุบัน จิตใจของมนุษย์มีความเข้าใจโดยกำเนิดและความสามารถในการเข้าใจจักรวาลและวิธีการทำงาน ด้วยความเข้าใจนี้เราจึงพบหนทางสู่โหราศาสตร์ หลายคนเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวกับชีวิตของเรา
ถึงแม้โหราศาสตร์และวิทยาศาสตร์จะมีความแตกต่างกัน แต่สองสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่คนมักให้ความสนใจเช่นเดียวกัน และสองศาสตร์นี้เป็นศาสตร์ที่คนนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตมากที่สุด เช่น การทำกิจการบางอย่างนั้นก็มักจะดูฤกษ์ดูยามตามฉบับตำราของโหราศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อต้องการลงมือทำอะไรซักอย่างนึงหรือการป่วยก็ต้องรักษาเชิงการแพทย์การวิทยาศาสตร์เช่นเดิม จึงสรุปได้ว่าสองสาดนี้เป็นศาสตร์ที่สำคัญพอ ๆ กันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมีความเชื่อแบบไหนมากกว่ากันเท่านั้นเอง
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ thaiastrology.net